มะเร็งคืออะไร
มะเร็ง(Cancer) เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง รักษายาก เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ในร่างกายเจริญเติบโตขึ้นผิดปกติและร่างกายควบคุมไม่ได้ ลุกลามไปแทนที่เซลล์ปกติและสามารถแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้อวัยวะของร่างกายทำงานไม่ได้ ผู้ป่วยก็จะเสียชีวิตในที่สุด
โรคมะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในบุคคลทั่วไป ทุกเพศทุกวัย มีมลภาวะสิ่งแวดล้อมมากมายที่ก่อนให้เกิดโรค บุคคลทั่วไปที่ไม่เอาใจใส่ดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่ได้ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีภาวะเสี่ยงมะเร็ง กรรมพันธ์ที่ผิดปกติ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
วิธีสังเกตุอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
- มะเร็งปากมดลูก อาการ ตกขาวมากผิดปกติ และมีลักษณะคล้ายหนอง มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติ มีอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดมีกลิ่นที่ผิดปกติ ปัสสาวะมีเลือดปน หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
- มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
- มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
- มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
- มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ผิวหนังและตาสีเหลือง(ดีซ่าน) อ่อนแรง และเหนื่อยล้า บวมที่ช่องท้อง เจ็บช่องท้องส่วนบน ปวดด้านขวา
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
- มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
- มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
- มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่า กลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้ มีเลือดออกจากปากและจมูก ไอเรื้อรัง เจ็บคอ น้ำหนักตัวลด
- มะเร็งกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อยๆ รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อๆ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
- มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อน เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน จะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ซึ่งควรจะตรวจทางการแพทย์ให้ชัดเจน หัวนมผิดปกติ เช่น หัวนมบุ๋ม
- มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ *ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ ต่อมในลำคอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง มีอาการหนาวสั่นโดยไม่มีสาเหตุ เหงื่อออกมากตอนกลางคืน น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ มีก้อนใต้ผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma) คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ
เนื้อร้ายแตกต่างจากเนื้องอกอย่างไร
เนื้องอกธรรมดา จะไม่รุกราม หรือแพร่กระจาย และขนาดจะไม่เพิ่มขึ้น
เนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็ง ก้อนเนื้อจะผิดปกติ โตเร็ว รุกรามไปเรื่อย อย่างควบคุมไม่ได้ แพร่กระจาย เซลล์เนื้อร้ายจะไปทำรายเซลล์ปกติ ทำให้เกิดการเจ็บป่วย
อะไรที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง สาเหตุของโรคมะเร็งมีมากมาย เช่น สารเคมีในควันบุหรี สารเคมีอย่างอื่น หรือเชื้อโรค ควันท่อไอเสียของรถยนต์ สารพิษที่เกิดจากเนื้อสัตว์รมควัน ปิ้งย่าง ทอดจนเกรียม มลภาวะสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม โรคอ้วน เป็นต้น
เมื่อได้รับการรักษามะเร็งจนหายแล้ว แต่มะเร็งยังกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้หรือไม่เพราะเหตุใด
ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อดูแลสุขภาพของผู้ที่มีปัญหามะเร็ง(การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง)
- รักษาสุขภาพอนามัยพื้นฐานอย่างเคร่งครัด และหลักเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด เพราะเป็นช่วงติดเชื้อได้ง่าย
- พักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าอ่อนเพลียหยุดพักผ่อน แต่ถ้าไม่อ่อนเพลียก็สามารถทำงานได้ แต่ควรเป็นงานเบา ไม่ได้ใช้แรงงานและสมองมาก และสามารถพักในช่วงกลางวันได้
- ทำงานบ้านได้ตามกำลัง
- ควรงดและเลิก บุหรี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควรดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีน แค่พอเหมาะ
- ควรดูแล รักษา และควบคุมโรคร่วม อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องร่วมไปด้วยเสมอกับการรักษาโรคมะเร็ง
- รักษาสุขภาพจิต ให้กำลังใจตนเอง และคนรอบข้าง มองโลกในด้านบวกเสมอ
- พบแพทย์ตามนัดเสมอ หรือพบแพทย์ก่อนนัดเมือมีอาการต่าง ๆ ผิดปกติไปจากเดิม หรือเมื่อกังวลอาการ
- เมื่อกินอาหารได้น้อย ให้พยายามกินในจำนวนมื้อที่บ่อยขึ้น กินครั้งน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ กินอาหารทุกชนิดที่กินได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องโรคไขมันในเลือดสูง แต่ยังต้องจำกัดอาหารหวาน และอาหารเค้ม เพราะมีผลต่อน้ำตาลในเลือดและการทำงานของไตลองปรับเปลี่ยนประเภทอาหาร ให้กินได้ง่ายขึ้น เช่น อาหารอ่อน อาหารเหลว แต่ควรหลักเลี่ยงอาหารทอด หรือผัด หรือมีกลิ่นรุนแรง เพราะมักกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน
เมื่อรับการรักษามะเร็งจนหายแล้ว สามารถกับมาเป็นมะเร็งใหม่ได้อีก เพราะการตรวจเซลล์ไม่พบ มิได้หมายความว่าจะไม่หลงเหลือเซลล์มะเร็งในร่างกายและขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น วิถีการดำเนินชีวิต อาหาร การทำงาน การออกกำลังกาย ความเครียด และพักผ่อน เป็นต้น
ผลข้างเคียงจากการให้เคมีบำบัด เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยตามร่างกาย ผมร่วง ติดเชื้อ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ภาวะซีดและเม็ดเลือดขาวต่ำ ตรวจจากเลือด ปัสสาวะ
มะเร็งที่ผู้ชายเป็นกันมาก 3 อันดับ คือ
- มะเร็งปอด มะเร็งหลอดลม
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งตับ, มะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งที่ผู้หญิงเป็นมาก 3 อันดับ คือ
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
ค่า AFP คือ ค่าล่งชี้ของมะเร็งตับที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด คนทั่วไปไม่เกิน 10 ng/nl
ค่า CEA คือ ค่าบ่งชี้ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด โดยทั่วไปคนปกติไม่เกิน 4 ng/ml
ค่า PSA คือ ค่าบ่งชี้ของมะเร็งต่อมลุกหมากที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด โดยปกติทั่วไปคนปกติ 4 ng/ml
ค่า CA125 คือ ค่าบ่งชึ้ของมะเร็งรังไขที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด โดยทั่วไปคนปกติไม่เกิน 35 Unis/ml
ค่า CA19-9 คือ ค่าบ่งชี้ของมะเร็งตับอ่อน มะเร็งท่อน้ำดีที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด โดยทั่วไปคนปกติไม่เกิน 37 Units/ml
ค่า CA15-3 คือ ค่าบ่งชี้ของมะเร็งเต้านมที่ตรวจได้จากการเจาะเลือด โดยทั่วไปคนปกติไม่เกิน 30 Units/ml
ผู้ป่วยมะเร็งต้องควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
ผู้ป่วยมะเร็งต้องเลี่ยงปฏบัติ และ เลี่ยงอาหารที่มะเร็งชอบ
|
สิ่งที่มะเร็งชอบ
|
มะเร็งไม่ชอบ
|
► อาหารรสหวาน (น้ำตาล) น้ำมะพร้าว * (มะเร็งเต้านม)
|
อาหารรสเปรี้ยว
|
► อาหารที่ปรุงด้วยวิธีปิ้ง ย่าง และทอด
|
อาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม นึง ลวก และเตาอบ
|
► อาหารที่ผ่านการแปรรูป และใส่สารกันบูด
|
อาหารสดสะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ
|
► เนื้อสัตว์ใหญ่ เนื้อแดง เช่น วัว หมู และสัตว์ปีก
|
ปลา ธัญพืช และผลไม้ที่ไม่หวาน
|
► ข้าวขาว ขนมปัง แป้ง น้ำตาล เส้นก๋วยเตี๋ยว เบเกอรี และไอสครีม
|
ข้าวกล้อง และธัญพืช
|
► ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
|
ออกซิเจน (ออกกำลังกาย)
|
► คาร์บอนไดออกไซด์ บุหรี สารเสพติด
|
ผลิตภัณฑ์จากพืช
|
► อยู่ในห้องปิดทึบอับ (ที่มืด)
|
แสงแดดช่วงเช้าและเย็น (วิตามินดี)
|
► อาหารที่ทำให้สภาพร่างกายเป็นกรอด เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม สุรา เบียร์ เกลือ ผงชูรส ของหมักดอง
|
อาหารที่ทำให้สภาพร่างกายเป็นด่าง เช่นผักสด และ ผลไม้ที่ไม่หวาน
|
►อาหารไขมันสูง
|
ผักสด และ ผลไม้ที่ไม่หวาน
|
►ปัญหาจิตใจ อารมณ์โกรธ เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า
|
อารมณ์ดี สวบ สวดมนต์ นั่งสมาธิ
|
* น้ำมันมะพร้าวมีสารที่คล้ายโฮร์โมนเพศหญิงจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ |
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
|
* ให้งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของสัตว์ เช่น นม เนย น้ำต้มซุป หรือ ซุปไก่สกัด เป็นต้น เนื่องจากมีหลักฐานว่าโปรตีนจากสัตว์ ทำให้เชลล์มะเร็งเติมโตเร็ว
|
* ให้ลดเค็มจาก เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว เพื่อลดปริมาณโซเดียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วและควบคุมไม่ได้
|
* การดูแลสภาพจิต สำคัญมากเพราะจะมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยโดยเฉพาะความเครียด ความวิตกกังวล หรือความคาดหวัง จะทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้นและจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เพื่อเป็นผลให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็ว โดยแนะนำให้เลิกเครียดและเลิกกังวล ปล่อยวางทุกอย่าง ทำจิตใจให้ดีและสงบ ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดและมีวินัย
|
* ญาติพี่น้องและคนใกล้ชิด จะมีบทบาทอย่างมากในการให้กำลังใจ และไม่เพิ่มความเครียดหรือ ความวิตกกังวลให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจและเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับมะเร็งได้
|
งานวิจัยเกี่ยวกับพืชสกัด 5 อย่าง พิชิตมะเร็ง
BIM ย่อมาจาก Balancing IMmunity คือ การปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล
BIM100 (บิม100) หมายถึง การปรับสมดุลของภูมิคุ้มกัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวได้ 100 ปี ด้วยการใช้สูตรอาหารที่วิจัยและพัฒนา โดยคณะวิจัย Operation BIM (APCO/แอปโก้)
|